เจาะกลยุทธ์ ‘ไทยเบฟ’ รั้งผู้นำ DJSI เครื่องดื่มโลก 5 ปีซ้อน

ธุรกิจ

เจาะกลยุทธ์ ‘ไทยเบฟ’ รั้งผู้นำ DJSI เครื่องดื่มโลก 5 ปีซ้อน

นอกจากมุ่งขับเคลื่อนองค์กร ผลักดันรายได้ และ “กำไร” อีกด้านบริษัทให้ความสำคัญกับแผนพัฒนาอย่างยั่งยืนควบคู่กันด้วย ซึ่งเป้าหมาย PASSION 2025 พันธกิจสำคัญคือการ “สร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต” เพื่อให้ธุรกิจแกร่งคู่ความยั่งยืนของโลกการดำเนินธุรกิจพร้อมภารกิจลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โลก ไทยเบฟมุ่งมั่นมาหลายปี และสร้างความสำเร็จจนผ่านด่านจากการเป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (The Dow Jones Sustainability Indices – DJSI) ซึ่งคว้าคะแนน “สูงสุด” ในหมวดอุตสาหกรรมเครื่องดื่มระดับโลก โดยปี 2565 ถือเป็นการรั้ง “ผู้นำ” ต่อเนื่อง 5 ปีซ้อนเบื้องหลังความสำเร็จ มีอะไรบ้าง และเป้าหมายระยะสั้นปี 2566 บริษัทมีโปรเจคใดต้องทำ รวมถึงระยะยาว 2573 และ 2583 เป็นอย่างไร “ต้องใจ ธนะชานันท์” รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มงานความยั่งยืน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) ทำหน้าที่ฉายภาพแบบเจาะลึกย้อนภารกิจความยั่งยืนของไทยเบฟ ไม่ได้เพิ่งเริ่มต้น เพราะหลายกิจกรรม การผลิตสินค้าและบริการ ตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม และดูแลสังคม ทำมานานหลายสิบปี ตัวอย่างที่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ เช่น การใช้บรรจุภัณฑ์ขวดแก้วทั้งจากเบียร์ น้ำดื่ม มา “รีไซเคิล” กว่า 40 ปี จนองค์กรต่างประเทศต้องหันมามอง การแจกผ้าห่มมา 23 ปี เป็นต้น

เจาะกลยุทธ์ ‘ไทยเบฟ’ รั้งผู้นำ DJSI เครื่องดื่มโลก 5 ปีซ้อนอีกหนึ่งในกิจกรรมไฮไลท์ และไทยเบฟ จริงจังมาก คือ “Sustainability Expo” หรือ SX ซึ่งเป็นงานมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน และไทยเบฟ ไม่ได้ทำเพียงลำพัง แต่ผนึกพลังพันธมิตรเล็กใหญ่ มาร่วม ไม่ว่าจะเป็น พีทีที โกลบอล เคมิคอล(GC) เอสซีจี ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป เป็นต้น ที่ขาดไม่ได้ คือผสานพลังกับ ภาคีเครือข่ายธุรกิจห่วงโซ่อุปทานแห่งประเทศไทย (Thailand Supply Chain Network – TSCN) ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ที่ค้าขายเชื่อมโยงกับบริษัทร่วม 2,000 บริษัท มาพลิกโฉมธุรกิจสู่ความยั่งยืน

ธุรกิจ

ทั้งนี้ งาน SX ปี 2565 จัดขึ้นครั้งที่ 3 ความสำเร็จเพื่อสร้างการตระหนักรู้ด้านความยั่งยืน การปฏิบัติอย่างไรเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมถึงระดับ “ปัจเจกบุคคล” มีผู้เข้าร่วมงานถึง 2.7 แสนรายภายในงาน “ไทยเบฟ” พันธมิตร และเครือข่ายซัพพลายเชน ยังนำเสนอข้อมูลความรู้ผสานความสนุก เพื่อสร้างเอ็นเกจเมนต์ กับกลุ่มเป้าหมาย มีสนามเด็กเล่น ฟู้ดเวสต์ สเตชั่น สอนการแยกขยะเปียก-แห้ง การนำเศษอาหารเหลือไปทำปุ๋ย การรีไซเคิลต่างๆ เกิดผลลัพธ์ คือ มีจำนวนขวด PET หลังการบริโภคที่ทิ้งลงถังคัดแยกและเครื่อง RVM ที่นำมาแลกผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลก 50,867 ขวด น้ำหนักรวม 763 กิโลกรัม(กก.) จำนวนอาหารเหลือทิ้งเข้าสู่กระบวนการทำเป็นปุ๋ย 1,770 กก. ลดปริมาณคาร์บอน 4.5 tCO2e เป็นต้น

“ไทยเบฟจัดมหกรรมด้านความยั่งยืน หรือ SX เพื่อมุ่งสร้างการรับรู้การพัฒนาอย่างยั่งยืนไปสู่ระดับบุคคล และกระตุ้นให้เกิดการลงมือปฏิบัติจริง”

เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของไทยเบฟชัดเจนมาก และการติดทำเนียบ DJSI ติดต่อกัน 5 ปี บริษัทมองเป็นการบ้าน ที่บริษัทต้องนำกลับมา “พัฒนาองค์กร” อย่างต่อเนื่องด้วย

“ทุกครั้งที่ตอบคำถาม เราจะกลับมาหาจุดอ่อน เพื่อทบทวนและพัฒนาตัวเองเพิ่มขึ้น”

ดังนั้น ปี 2566 ไทยเบฟ จึงมีภารกิจใหม่ๆที่จะดำเนินการมากมาย เช่น ขยายขอบเขตประเมินความเสี่ยงสิ่งที่บริษัทดำเนินการจะมีผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพหรือไม่อย่างไร การเก็บข้อมูล นำเทคโนโลยีมาใช้แก้ปัญหาการเก็บบรรจุภัณฑ์กลับคืน เช่น บางพื้นที่ขายเบียร์ น้ำดื่มได้ปริมาณมาก แต่เก็บบรรจุภัณฑ์กลับคืนได้น้อย ต้องหาทางเก็บกลับให้มากขึ้น การใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบเหลือใช้ เช่น เบียร์ เหล้า มีกาก ของเสียจากมอลต์ น้ำตาลนำไปใช้ประโยชน์ผลิตพลังงานชีวภาพหรือไบโอแก๊ส แปรรูปเป็นอาหารสัตว์ ทำปุ๋ย เป็นต้น

นอกจากนี้ ไทยเบฟ ยังนำร่องใช้ “รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า” หรืออีวี นำร่อง 1 คัน และมีการสร้างสถานีชาร์จภายในโรงงาน และคลังสินค้า รองรับการขนส่งสินค้าจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่ง คือโรงงานไปยังคลังสินค้า บริษัทยังร่วมมือกับ “เอสซีจี” ในการพัฒนารถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า เพื่อให้ต้นทุนต่ำลง รองรับการเปลี่ยนใช้รถยนต์ขนส่งสินค้าในอนาคตด้วย ซึ่งปัจจุบันทั้งรถบรรทุก รถขนส่งสินค้า(cash van) รถฝ่ายขาย ฯ มีจำนวนมากถึงหลัก “พันคัน”